HAS GALLERY, FRAMING

ถ้าพูดถึง “ซุมบา (Zumba)” หลายๆ คนอาจไม่คุ้นหูกับชื่อนี้กันสักเท่าไร แต่สำหรับบ้านที่ชื่นชอบการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ เชื่อว่าหนึ่งในจำนวนไม่น้อยย่อมรู้จักซุมบาเป็นอย่างดี เพราะเป็นการออกกำลังกายทางเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกตั้งแต่ปี 2001 และเข้ามาในประเทศไทยได้ประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ถือเป็นการเต้นเพื่อสุขภาพที่สร้างความสนุก และเต้นตามได้ง่าย แถมช่วยกระชับสัดส่วนได้ดีอีกด้วย ชัชวาล สิงหเสนี หรือ ครูตั๋ง ผู้สอนเต้นซุมบาที่ผ่านการอบรมซุมบ้าจากประเทศออสเตรเลีย และเป็นหนึ่งในคนไทยเพียงไม่กี่คนที่ได้ลิขสิทธิ์การสอนซุมบาในประเทศไทย รวมถึง Zumba Instructor Network จาก Zumba Fitness เล่าให้ฟังถึงการออกกำลังกายแนวนี้ ว่า เป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายในรูปแบบแอโรบิก ยักย้ายส่ายสะโพกในลีลาจังหวะเพลงเร้าใจแบบละตินผสมจังหวะทันสมัย ร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็น มาเรงเก้ ซัลซา เรกเกตอน ฮิปฮอป เป็นต้น ซึ่งเป็นการฝึกเต้นตามจังหวะช้าและเร็วแบบค่อยเป็นค่อยไป ช่วยทำให้ร่างกายยืดหยุ่น และรูปร่างดีขึ้นในขณะที่ร่างกายกำลังเผาผลาญแคลอรี “ซุมบาเกิดขึ้นโดยบังเอิญจาก อัลเบอร์โด เปเรซ หรือเบโต้ ผู้สอนเต้นเชื้อสายโคลอมเบีย ซึ่งลืมเทปเพลงแอโรบิกที่ใช้ประกอบการสอน จึงนำเทปเพลงละตินที่มีติดกระเป๋าอยู่ในขณะนั้นเปิดสอนแทน แล้วออกแบบท่าเต้นใหม่ให้ผู้เรียนในชั้นเต้นตาม จึงเกิดเป็นซุมบาขึ้นมา โดยคำว่า “ซุมบอ นั้น เป็นคำสแลงของชาวโคลอมเบียหมายถึงจังหวะการเต้นรำแบบแซมบา ผสานกับคำว่า “รุมบา” ที่หมายถึงงานปาร์ตี จึงกลายเป็นการเต้นรำหลากหลายสไตล์ที่สนุกสนานเร้าใจในชื่อซุมบา”ครูตั๋งเล่าถึงที่มาของคำว่าซุมบา ครูตั๋ง บอกต่อไปว่า การเต้นแนวนี้ ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รูปร่างสมส่วน หรือมีความยืดหยุ่นขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการเต้นออกกำลังกายที่ช่วยทำให้หัวใจทำงานดีขึ้น ทั้งยังช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 800-1,000 กิโลแคลอรี (ภายใน 1 ชั่วโมง) ช่วยลดไขมันส่วนเกิน และกระชับสัดส่วนได้ดี โดยเฉพาะบริเวณแขน สะโพก ต้นขา พร้อมๆ กับการสร้างกล้ามเนื้อท้องและหลัง “จุดเด่นของซุมบา คือ ท่าง่าย และเต้นตามได้ ซึ่งครูนำเต้น สามารถผสมผสานการออกแบบท่าเต้นได้อย่างหลากหลาย โดยจังหวะพื้นฐานของซุมบามีอยู่ 4 จังหวะ คือ มาแรงเก้ ซัลซ่า เรกเก้โทน และ คุมเบียร์ เริ่มต้นด้วยการวอร์มอัปก่อน ต่อด้วยเพลงในแต่ละจังหวะ จังหวะละ 2 เพลง ประมาณ 40 นาที และปิดท้ายที่คูลดาวน์ รวมแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถใช้เพลงอะไรก็ได้ในการวอร์ม หรือปิดท้าย ขึ้นอยู่กับครูผู้นำเต้น แต่ส่วนใหญ่จะได้เพลงซุมบาที่ได้ลิขสิทธิ์ส่งตรงมาจากอเมริกาอยู่แล้ว” ครูตั๋ง เผย ซุมบา โทนนิ่ง (Zomba toning) ทั้งนี้ การเต้นซุมบา มีหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ ซุมบา โทนนิง (Zumba toning) เป็นการเต้นออกกำลังกายที่พัฒนามาจากการเต้นแบบซุมบาที่มีต้นกำเนิดจากโคลอมเบีย มีลักษณะคล้ายบอดีสคับติ้ง (Body Sculpting) แต่เป็นสไตล์การเต้นแบบซุมบาที่ผสมผสานเข้ากับเพลงได้อย่างลงตัว ทั้งเพลงละติน และเพลงสากล รวมไปถึงเพลงไทยที่หลากหลาย ด้วยการเต้นเข้าจังหวะต่างๆ เช่น ดิสโก มาเรงเก้ ซัลซา เรกเกตอน ฮิปฮอป เป็นต้น พร้อมๆ กับใช้อุปกรณ์ประกอบการเต้นที่เรียกว่า “โทนนิง สติ๊ก (Toning Stick)” ที่สั่งโดยตรงการมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะ ซึ่งมีลักษณะคล้ายดัมเบล (Dumbbell) ที่มีน้ำหนักเบา และมีเสียงให้จังหวะเวลาเขย่าในขณะเต้น ทำให้ผู้เต้นมีความเพลิดเพลิน และสนุกสนานกับการออกกำลังกายในรูปแบบนี้มากขึ้น แต่ควรระวังในเรื่องของการใช้อุปกรณ์ด้วย เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บได้ ปัจจุบัน ซุมบา โทนนิง เป็นหนึ่งในลิขสิทธิ์ของ ซุมบา ฟิตเนส (Zumba Fitness) ประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับในประเทศไทยยังไม่มีการเปิดอบรมหลักสูตรนี้ และมีผู้ฝึกสอนที่ผ่านการอบรมหลักสูตรซุมบา โทนนิง น้อยมาก ซึ่ง ครูตั๋ง เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ผ่านการอบรมหลักสูตรดังกล่าวนี้ในต่างประเทศ และเป็นคนแรกที่เปิดสอนในประเทศไทยในหลายๆ สถาบัน อาทิ rumPUREE Phillip Wain Cascade club เป็นต้น สำหรับบ้านใดที่สนใจการเต้นเพื่อสุขภาพแนวนี้ ครูตั๋ง แนะนำว่า ควรเตรียมร่างกาย และชุดให้พร้อม ซึ่งชุดที่ใส่เต้น ควรเป็นเสื้อและกางเกงยืดที่สวมใส่สบาย รองเท้าเป็นรองเท้าพื้นแบนที่มีน้ำหนักเบา อาจจะเป็นรองเท้าผ้าใบสำหรับเต้นแอโรบิกหรือเล่นฟิตเนสโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าเจ็บหรือเกิดการกระแทกของข้อเข่า ส่วนผู้ที่เป็นโรคหัวใจ หรือมีโรคประจำตัว ไม่แนะนำให้เล่น เพราะการเต้นออกกำลังกายแนวนี้ช่วยทำให้หัวใจทำงานดีขึ้น ดังนั้น จึงเป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างเหนื่อย ส่วนผู้เล่นท่านอื่น ๆ หากรู้สึกเหนื่อย ไม่ควรฝืนเต้น แต่สามารถเต้นให้เบาลง หรือหยุดพักได้ นับเป็นการออกกำลังกายตัวเลือกใหม่ที่น่าไปยักย้ายส่ายสะโพกกันดู